สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

แนะ! ก่อนซื้อควรดูฉลาก เครื่องหมาย อย. และไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ในขณะที่ธุรกิจส่วนมากล่มสลายไปกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรืออาหารแฟชั่นกลับดีวันดีคืนดังตัวเลขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รายงานว่า เมื่อปี 2550 อย. ได้อนุญาตให้มีการผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวน 413 ราย และเพิ่มขึ้นเป็น 651 ราย ในปี 2541 ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงกระแสนิยมกินอาหารเสริมในหมู่คนไทยได้เป็นอย่างดี

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในความหมายของอย. ระบุว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กินโดยตรง กินนอกเหนือจากการกินอาหารหลักตามปกติกินเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย มักจะอยู่ในรูปของ แคปซูล สาหร่ายอัดเม็ด และใยอาหารผลชงดื่มเป็นต้น ส่วนมากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดจากอาหารธรรมชาติ หรือไม่ก็เสริมอาหารบางตัวลงไป

หากจะถามว่าเหตุใดคนจึงนิยมกินอาหารเสริม ก็จะได้คำตอบมากมายด้วยเหตุผล ส่วนมากจะถูกโน้มน้าวด้วยการโฆษณาทั้งขายตรงขายอ้อม กล่อมผู้ซื้ออย่างได้ผลโดยจับจุดอ่อนจุดแข็งของผู้บริโภคหลายด้าน โดยเฉพาะปัจจุบันวิถีชีวิตของคนเร่งรีบ มีเวลาให้ตัวเองน้อยแม้กระทั่งเรื่องกิน มีความเครียดมากขึ้น ขาดการออกกำลังกาย ชอบความสะดวกสบาย นำไปสู่การเจ็บป่วยและเสียชีวิตมากขึ้น ประกอบกับเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มที่มีอำนาจการซื้อและชอบไหลไปตามแฟชั่นและกระแสตะวันตก ปัจจัยดังกล่าวมีมากพอที่ผู้ผลิตผู้จำหน่ายอาหารเสริมจะฉวยจังหวะเข้ายึดตลาดการบริโภคของเมืองไทยได้สำเร็จ

คำถามตามว่าจำเป็นต้องกินอาหารเสริมไหม ก่อนจะได้คำตอบต้องมาดูก่อนว่า ความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ อาหรเสริมมีสารอะไรประกอบอยู่ มีประโยชน์ต่อร่างกายตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่โดยทั่ว ไปถ้าอาหารเสริมที่สกัดจากอาหารธรรมชาติจะมีคุณค่าสารอาหารอยู่แต่จำนวนไม่มาก หากเทียบราคากับการกินอาหารปกติอาหารเสริมจะแพงมาก ดังนั้นหากร่างกายเรามีภาวะปกติ กินอาหารตามโภชนบัญญัติ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมอารมณ์ไม่เครียด อาหารเสริมไม่มีความจำเป็นใดๆ ต่อชีวิตเรา

แต่ถ้าหากจะกินอาหารเสริม จงคำนึงให้ดีว่าอาหารเสริม ชื่อบอกแล้วว่าเป็นอาหารไม่ใช่ยา จึงรักษาและบำบัดโรคไม่ได้ และที่สำคัญอาหารเสริมจัดเป็นอาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษ ก่อนซื้อก่อนกินต้องดูให้แน่ว่ามีเครื่องหมาย อย. และที่สำคัญไม่ควรกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

อาหารเสริมกินได้แต่ต้องไตร่ตรองคุ้มกับเงินทองที่เสียไปหรือไม่

โดย : อาจารย์สง่า  ดามาพงษ์ ที่มา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ