สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

ลดเสี่ยงโรคโลหิตจาง อ่อนเพลีย แขนขาเหน็บชา

อาหารมังสวิรัติกำลังเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทย โดยเฉพาะประเทศตะวันตก และอเมริกาเริ่มหันมาสนใจกินอาหารมังสวิรัติกันมากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะมีผลดีต่อสุขภาพ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจกินมังสวิรัติ ท่านจะต้องทำความรู้จักและเข้าใจหลักการที่แท้ของชาวมังสวิรัติก่อนเพื่อจะทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ ยังมีคนไทยบางกลุ่มที่กินอาหารมังสวิรัติแบบไม่ถูกหลักและมีความเคร่ง หรือยึดมั่นแบบสุดโต่งจนเกินไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

โดยทั่วไปมังสวิรัติจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ

กลุ่มที่ 1 มังสวิรัติที่กิน พืชผัก ผลไม้ ธัญพืช กินนมและไข่

กลุ่มที่ 2 มังสวิรัติที่กิน พืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และกินนมแต่ไม่กินไข่

กลุ่มที่ 3 มังสวิรัติที่กินเฉพาะพืชผัก ผลไม้ และธัญพืช ไม่กินนมและไข่

นักโภชนาการทั่วไป มักจะสนับสนุนให้คนกินมังสวิรัติแบบกลุ่มที่ 1 มากกว่ากลุ่ม 3 เพราะมีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารที่มีเฉพาะในเนื้อสัตว์ ไข่ นมเท่านั้น ดังนั้น กลุ่มที่กินเฉพาะพืชผักติดต่อกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน โดยเฉพาะในวันที่กำลังเจริญเติบโตจะมีโอกาสขาดวิตามินบี 12 ได้ ซึ่งอาการขาดวิตามินบี 12 ที่เป็นได้ชัดเจนคือ เป็นโรคโลหิตจาง อ่อนเพลีย ขาแขนเป็นเหน็บชาและขาดความรู้สึก ระบบประสาทเสื่อม

การขาดแคลเซียมมักจะพบในกลุ่มที่กินมังสวิรัติแบบเคร่งเช่นเดียวกัน แม้ว่าแหล่งอาหารของมังสวิรัติที่มีแคลเซียมคือ พืชผักใบเขียวและถั่วเมล็ดแห้ง แต่จะต้องกินในปริมาณที่มากกว่าการดื่มนมและกินไข่ แต่ต้องระมัดระวังคือ การกินพืชผักซึ่งมีสารไฟเตทและใยอาหารสูง หากกินมากเกินไปก็จะไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม และแร่ธาตุบางชนิด มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในกลุ่มมังสวิรัติแบบเคร่ง อาจเกิดขึ้นได้ง่ายหากกินไม่ถูกต้องเพราะธาตุเหล็กในพืชผักจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยกว่าธาตุเหล็กที่ได้จากสัตว์ แต่ถ้ารู้จักกินวิตามินซีร่วมจะทำให้เพิ่มอัตราการดูดซึมเหล็กได้ดีขึ้น

การกินมังสวิรัติในกลุ่ม เด็ก หญิงตั้งครรภ์และให้นมลูกจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมีความจำเป็นจะต้องกินควรกินไข่และนมด้วย กินมังสวิรัติอย่างฉลาดจะต้องไม่ขาดสารอาหาร

ทีมา  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ