สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

หลักฐานมัดแน่นโลกร้อนเกือบทั้งหมดฝีมือ "มนุษย์"

เอพี/บีบีซีนิวส์/เอเจนซี - หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ใครๆ ก็รู้ ที่โลกร้อนขึ้นอย่างรั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ก็เพราะน้ำมือมนุษย์ แต่รายงานสถานการณ์โลกร้อนฉบับที่มีหลักฐานสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์หนักแน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพิ่งจะสามารถใช้ถ้อยคำอย่างชัดเจนว่า "มนุษย์น่าจะเป็นตัวการสำคัญเลยทีเดียว" ที่สร้างภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผันผวน พร้อมเผยแพร่รายละเอียดสู่ชาวโลกในไม่ช้านี้
      นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศ 2,500 คนจาก 113 ประเทศทั่วโลก ได้ร่วมกันแก้ไขรายงานฉบับสำคัญของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ หรือ ไอพีซีซี (Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC) ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ. ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการประชุมระดมความคิดได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
      รายงานชิ้นนี้จะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเอกฉันท์จากผู้เข้าร่วมประชุม จากนั้นจึงจะนำเผยแพร่สู่สาธารณะในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 15.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) และเชื่อว่าจะกลายเป็นรายงานสถานการณ์โลกร้อน ฉบับที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะกระทบนโยบายของรัฐบาลและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วโลก
      ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญในการพิจารณาช่วงท้ายๆ คือการระบุต้นเหตุของโลกร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งคราวนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้กล่าวโทษมนุษย์รุนแรงมากขึ้นกว่ารายงานที่เขียนไว้เมื่อ 6 ปีก่อน
      รายงานฉบับปี 2001 ของไอพีซีซีที่เปิดเผยสู่สาธารณะระบุลงไปว่า สถานการณ์โลกร้อนที่เกิดขึ้น "น่าจะ" (likely) มีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งหมายถึงแค่ 66% ของภาวะโลกร้อนเกิดจากมนุษย์ ตอนนั้นผู้เข้าร่วมประชุมหลายฝ่ายต้องการจะเปลี่ยนคำว่า "น่าจะ" เป็น "อย่างแท้แน่นอน" (virtually certain) ซึ่งจะทำให้หมายความได้ว่า 99% ของสาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อนคือฝีมือมนุษย์นั่นเอง
      มาครั้งนี้ ที่ประชุมใช้คำเพิ่มความรุนแรงขึ้นมาอีกระดับ โดยให้ลงคำว่า "น่าจะเลยทีเดียว" (very likely) ลงไปในประเด็นที่ว่า "มนุษย์คือสาเหตุ" ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อมูลที่ว่ามีโอกาสถึง 90% ที่มนุษย์เป็นตัวการทำให้เกิดสถานการณ์โลกร้อน
      "นี่เป็นการขยับครั้งใหญ่ หวังว่าถ้อยคำนี้จะมีอนุภาพ" แจน เพรเทล (Jan Pretel) หัวหน้าฝ่ายสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง แห่งสถาบันอุทกอุตุนิยมวิทยา สาธารณรัฐเช็ค (Czech Hydrometeorological Institute)
      "ฉันหวังว่าผู้กำหนดนโยบายจะตระหนักถึงปัญหามากขึ้นหลังจากได้รับข้อความเหล่านี้" รีอิเบตา อบาตา (Riibeta Abeta) ผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศที่เป็นหมู่เกาะ "คิริบาติ" (Kiribati) ซึ่งเธอกำลังเป็นห่วงปัญหาปริมาณน้ำทะเลที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ
      อย่างไรก็ดี ผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมประชุมก็ไม่ได้ร่วมส่งเสียงอภิปรายโต้แย้งในภาคประชุมใดๆ จะมีก็เพียงแต่ซูซาน โซโลมอน (Susan Solomon) นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ มานั่งเป็นประธานการประชุมใน 1 เซสชั่น อีกทั้งก่อนหน้าการประชุมไม่กี่วันรัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ บุช ก็ยอมรับว่าโลกร้อนเกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์และเป็นปัญหาที่ต้องจัดการ
      ทางด้านผู้แทนจากจีนออกจะขัดขวางการใช้คำกล่าวโทษมนุษย์ว่าเป็นต้นเหตุ ตามคำบอกเล่าของผู้ร่วมประชุมจากบาร์บาดอสและซิมบับเว ซึ่งจีนกำลังเติบโตและใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกตัวการสำคัญที่เพิ่มอุณหภูมิให้แก่โลก ดังนั้นระหว่างการประชุมผู้แทนจากจีนจึงพยายามร้องขอให้เอาคำว่า "น่าจะเลยทีเดียว" ออกจากข้อความ
      ทั้งนี้ รายงานที่ไอพีซีซีกำลังจะเผยแพร่ยังได้กล่าวถึงภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุให้เกิดเฮอริเคนที่มีความแรงมากขึ้น อย่างเช่น "แคทรินา" ที่พัดถล่มสหรัฐฯ ในปี 2005 ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติให้ระบุว่าเฮอริเคนและพายุโซนร้อนเพิ่มความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา และเกี่ยวเนื่องกับมนุษย์ที่ทำให้เกิดโลกร้อนเป็นอย่างมาก
      คณะกรรมาธิการฯ ยังระบุอีกว่า พายุที่รุนแรงขึ้นทั่วโลกมีความแตกต่างกันออกไป แต่พายุที่เข้าถล่มสหรัฐฯ นั้นเกิดจากอิทธิพลของภาวะโลกร้อน
      อย่างไรก็ดี ในปี 2001 คณะกรรมการเดียวกันนี้บอกว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปตามความเห็นด้านบน
      นอกจากนี้ ร่างรายงานที่คาดการณ์ว่าอุณหภูมิโลกในปี 2100 จะสูงขึ้นถึง 2.5 - 10.4 องศานั้น ยังจะต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข
      ส่วนประเด็นถกเถียงอื่นๆ เช่น การคาดระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น นักวิทยาศาสตร์พยายามเรียบเรียงข้อมูลจากร่างแรกๆ ที่ประมาณการณ์ไว้ต่ำเกินไปว่าน้ำทะเลในปี 2100 นั้นจะสูงขึ้นจากปัจจุบันไม่เกิน 23 นิ้ว แต่พวกเขาไม่ได้รวมถึงปริมาณน้ำแข็งแผ่นที่ละลาย เพราะไม่สามารถทำนายได้ว่าปริมาณน้ำแข็งที่ละลายจากกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกาได้
      และระหว่างที่ผู้เข้าร่วมประชุมกำลังเคร่งเครียดแก้ไขรายงานแข่งกับเวลาในค่ำสุดท้ายของการประชุม ทางฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าบ้าน ได้ปิดไฟหอไอเฟลและตามอนุสาวรีย์ต่างๆ ในปารีสเป็นเวลา 5 นาที (และประชาชนบางส่วนในยุโรปก็ร่วมด้วย) เพื่อรณรงค์ให้ประหยัดพลังงาน ทว่าผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาเตือนว่าความตั้งใจดีที่ปิดไฟชั่วคราว เวลาเปิดไฟกลับมาอีกครั้งนั้นเปลืองพลังงานมากกว่าเปิดไฟต่อเนื่องกันเสียอีก
      รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ และจะแปลเป็น 5 ภาษา อีกทั้งยังมีบทคัดย่อประมาณ 12-15 หน้าสำหรับผู้กำหนดนโยบายทั่วโลก
      อย่างไรก็ดี ยังมีนโยบายบรรเทาปัญหาโลกร้อนที่ดูเหมือนจะเป็นรูปธรรม อย่าง "พิธีสารเกียวโต" (Kyoto Protocol) ที่มี 35 ประเทศอุตสาหกรรมเข้าร่วมตั้งเป้าลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 5% ในปี 2008-2012 ทว่าก็ยังมีเสียงเรียกร้องให้ประเทศที่เป็นตัวการสำคัญอย่างสหรัฐฯ จีน และอินเดียที่แม้ไม่เข้าร่วมพิธีสาร แต่น่าจะทำอะไรเพื่อโลกได้มากกว่านี้

Comment #1
กีก๊วน (Not Member)
Posted @9 ส.ค. 50 18:43 ip : 58...221
Photo :  , 400x300 pixel 54,907 bytes

hahahahahahhahahhahahahahahhahahahhahahhahahhahahahahhayo

Comment #2
oh oh (Not Member)
Posted @16 ส.ค. 50 20:52 ip : 125...34

Comment #3
555+ (Not Member)
Posted @21 ส.ค. 50 17:23 ip : 124...57

ดีค่ะ

Comment #4
ชุติมา (Not Member)
Posted @4 ก.ย. 50 20:12 ip : 58...31

Comment #5
อีอี้คุง (Not Member)
Posted @1 พ.ย. 50 17:28 ip : 125...63

อยากจะให้ทุกคนเลิกเผาขยะ    และทิ้งขยะให้เป็นที่

Comment #6
หวาน (Not Member)
Posted @29 พ.ย. 50 11:14 ip : 203...58

อยากให้ทุกคนเลิกเผาขยะ

Comment #7
ลดโลกร้อน (Not Member)
Posted @13 ธ.ค. 50 17:58 ip : 203...175

ลดเลิก

Comment #8
เด็กดอย (Not Member)
Posted @2 ม.ค. 51 19:22 ip : 125...49

กลัวมากอยากให้ช่วยกันเลิกเผาขยะ

Comment #9
^-^ (Not Member)
Posted @7 ม.ค. 51 13:16 ip : 125...156

งิงิ ^-^

Comment #10
ดดกดก (Not Member)
Posted @16 ม.ค. 51 18:01 ip : 58...52

อยากให้มีเว็บดีๆอย่างนี้อีก

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว