สธ. ชี้ฤดูร้อนแดดแรง เสี่ยงโรคตาต้อกระจก แนะสวมแว่นป้องกัน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2550 12:13 น.
สธ.แนะประชาชนสวมแว่นตากันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง หรือกลางแดดจัด ป้องกันแสงต่อสายตาถูกทำลายจากรังสีอุลตร้าไวโอเลต เร่งให้เกิดตาต้อกระจกเร็วขึ้น แนะเลนซ์ของแว่นกันแดดที่เหมาะสมและได้ผลดีควรมีสีเข้ม เช่น สีชา สีดำ ส่วนเลนส์สีฉุดฉาดไม่แนะนำ เพราะไม่มีผลต่อการป้องกัน
วันนี้ (7 เมษายน ) ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปมอบแว่นตาและน้ำยาล้างตาคุณภาพสูง จำนวน 500 ชุด ให้ประชาชนที่ประสบปัญหาตาอักเสบจากฝุ่นเข้าตา ที่ อบต.ตะปาน อำเภอพุนพิน โดยได้รับบริจาคจาก ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ซึ่งเป็นแว่นตาที่บางเบา นอกจากใช้ป้องกันฝุ่นละอองได้แล้ว สามารถป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลตที่จะทำให้เกิดการเสียหายต่อสายตา กระจกตาได้อีกด้วย
นพ.มงคล กล่าวว่า ดวงตาเป็นสิ่งที่มีค่า ต้องรู้จักถนอม ดูแล รักษา ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตาทั้งที่เกิดภายนอกและภายในลูกตา จะมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก แว่นตาและน้ำยาล้างตาที่มอบในวันนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวตะปานในเบื้องต้น เนื่องจากตำบลตะปาน ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอพุนพินประมาณ 38 กิโลเมตร การคมนาคมในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นถนนลูกรังและถนนดิน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง โดยพบว่ามีชาวบ้าน 5 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 818 หลังคาเรือน ประกอบด้วย บ้านปลายคลอง บ้านตะปาน บ้านบนไร่ บ้านราษฎร์ประดิษฐ์ และบ้านห้วยทรายขาว ขณะนี้มีปัญหาตาอักเสบ 72 ราย
นพ.มงคลกล่าวว่า ในปี 2549 มีชาวบ้านที่ ต.ตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีป่วยเป็นโรคตาจำนวน 57 ราย ส่วนใหญ่มีอาการเยื่อบุตาอักเสบ 36 ราย ต้อเนื้อ 5 ราย ต้อกระจก 4 ราย เยื่อบุตาเสื่อมและกุ้งยิงประเภทละ 3 ราย หนังตาอักเสบและแผลที่กระจกตาประเภทละ 2 ราย ต้อหินและตาพร่าประเภทละ 1 ราย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนจัดขึ้น แดดแรงมาก ประชาชนจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากในแสงอาทิตย์ จะมีรังสีอัลตราไวโอเลตหรือที่เรียกกันว่าแสงยูวี ซึ่งตามปกติแล้วร่างกายเราต้องถูกแดดบ้างเพื่อให้ยูวีกระตุ้นการสร้างวิตามินดี ป้องกันโรคกระดูกอ่อน กระดูกผุ และกระดูกพรุน แต่หากได้รับรังสีดังกล่าวมากไป นอกจากจะทำให้ผิวไหม้ ผิวเหี่ยวย่นแล้ว ยังทำให้เป็นโรคตาต้อกระจกได้ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังทำให้เกิดต้อเนื้อและอาการป่วยอื่น ๆ ได้
"ยูวีเป็นรังสีที่มองไม่เห็นและไม่สามารถรู้สึกได้ สภาพภูมิประเทศที่เป็นหิมะ ทรายและทะเล จะสะท้อนยูวีที่มาจากแสงอาทิตย์ต่างกัน โดยพื้นที่ชายหาดสามารถสะท้อนแสงยูวีได้ 15 เปอร์เซนต์ ส่วนชั้นโอโซนที่บางลงทำให้ยูวีผ่านลงมายังพื้นโลกมากขึ้น ปริมาณยูวีที่ผ่านมาถึงพื้นโลกยังขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวัน และปริมาณเมฆหมอกในท้องฟ้า ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ประชาชนทุกวัย สวมแว่นตากันแดดทุกครั้งที่อยู่ในที่มีแสงแดดจ้า"นพ.มงคลกล่าว
นพ.มงคล กล่าวต่ออีกว่า การเลือกซื้อแว่นตากันแดด ประชาชนสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด ซึ่งมีวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก มีหลายราคา แต่ในการเลือกจะต้องเลือกเลนซ์แว่นที่ทึบแสงสีชา สีฟ้า สีดำ สวมแล้วสบายตา เดินแล้วไม่มึนงง ไม่แนะนำให้ใส่แว่นที่มีเลนส์สีฉูดฉาดในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากไม่มีผลในการป้องกันรังสียูวี ซึ่งการใส่แว่นป้องกันแสงยูวีนี้ จะสามารถชะลอการเกิดโรคตาต้อกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์
Relate topics
- 28 มกราคม 55 - เปิดตลาดนัดสุขภาพสายใยชุมชน
- ผลวิจัยคุณภาพชีวิตรอบโรงงานเปรียบเทียบในจะนะ
- ชวนลูก จูงหลาน ขี่รถ แลเขาคูหา
- ชวนชาวสงขลาร่วมช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยคาบสมุทรสทิงพระ
- สมัชชาสุขภาพกับการพัฒนาประเทศ
- ห้องเรียนท้องนาจะเปิดเรียนแล้วนะ
- 19 ส.ค. 53 13.30-15.30 น. ถ่ายทอดสดคลินิกทางไกล จากศูนย์เรียนรู้ สจรส. มอ.
- ขอเชิญร่วมโครงการเดินเพื่อสันติปัตตานี
- รางวัลสนับสนุนชุมฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่า
- รวมน้ำใจเพื่อช่วยสร้างอาคารใหม่ "มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” เหยื่อป่วนเผาเมือง