สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

อีก 25 ปีเตรียมหาสถานที่รองรับผู้เฒ่าแม่แก่ที่เพิ่มขึ้น 2 เท่า

by wanna @15 มี.ค. 50 16:06 ( IP : 222...181 ) | Tags : ข่าวสุขภาพประจำวัน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 มีนาคม 2550 15:17 น.

        กรมอนามัย เผยแนวโน้มไทยเป็นสังคมสูงอายุ อีก 25 ปี คนแก่เพิ่มขึ้น 2 เท่า เตรียมรับมือปัญหาภาวะพึ่งพาของผู้สูงอายุ จับมือจ.นนทบุรี นำร่องพัฒนารูปแบบบริหารจัดการระบบสุขภาพและสวัสดิการแบบองค์รวม เน้นกลยุทธ์สร้างเครือข่ายที่หลากหลาย และเพิ่มศักยภาพผู้สูงวัย
      วันนี้ (15 มีนาคม ) นพ.โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าจากการคาดประมาณประชากรของสหประชาชาติและ สนง.คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.8 ในปี 2513 เป็นร้อยละ 10.5ในปี 2549 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 21.4 ในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้น 2เท่าตัว ในระยะเวลา 25 ปี โดยอายุขัยเฉลี่ยของเพศหญิงและชายจะสูงขึ้นเป็น96.5 และ 87 ปี ตามลำดับ ซึ่งจากแนวโน้มคนไทยมีอายุยืนยาวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 2 ทศวรรษข้างหน้าจะก่อให้เกิดภาวะพึ่งพาของผู้สูงอายุที่ส่งผลต่อการขยายตัวของภาวะทุพพลภาพทางสังคมและก่อให้เกิดปัญหาสาธารณสุขตามมา       ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงจัดทำ โครงการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการระบบสุขภาพและสวัสดิการสังคมเชิงบูรณาการสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทยขึ้น โดยขอรับทุนสนับสนุนทางวิชาการจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหา ภาวะประชากรสูงอายุ ในอนาคต
      ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมวิชาการ 4 กรม รับผิดชอบพื้นที่นำร่อง 4จังหวัด ได้แก่ กรมการแพทย์ รับผิดชอบ จ.เชียงราย, กรมสุขภาพจิต รับผิดชอบจ.สุราษฎร์ธานี, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รับผิดชอบ จ.ขอนแก่น และกรมอนามัยรับผิดชอบ จ.นนทบุรี
      นพ.โสภณ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่รอผลการพิจารณาขอรับทุนจากญี่ปุ่น กรมอนามัยได้จัดทำโครงการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการระบบสุขภาพฯสำหรับผู้สูงอายุ ในจังหวัดนนทบุรี (ระยะที่ 1) ขึ้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเพิ่มศักยภาพของความร่วมมือและพัฒนามาตรฐานการบริการระดับท้องถิ่นโดยจัดเป็นการศึกษาแบบนำร่องและเรียนรู้จากบทเรียนที่ดี สามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุในอนาคตและตอบสนองต่อสิ่งจำเป็นของผู้สูงอายุในระดับท้องถิ่นได้ การชี้แจง แนะนำทำความเข้าใจแก่บุคลากรระดับจังหวัด และระดับอำเภอ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้พร้อมทั้งระดมสมองให้เกิดรูปแบบการบริการแบบบูรณาการและการสรุปบทเรียน
      นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่าจากข้อมูลของชมรมผู้สูงอายุจังหวัดนนทบุรี พบว่า ผู้สูงอายุมีโรคทางกายร้อยละ 30.44 เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางจิตร้อยละ 2.5 จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้สูงอายุ มีความเคลื่อนไหวทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในการรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันเองและช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้นการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุของ จ.นนทบุรีจึงเป็นกระบวนการทำงานแบบภาคีเครือข่ายที่มีความหลากหลายทางกลุ่มวิชาชีพโดยคำนึงถึงศักยภาพของกลุ่มผู้สูงอายุได้แก่ 1) กลุ่มที่สามารถช่วยเหลือตนเองและสังคมได้ เช่น โครงการจิตอาสา และ โครงการเชื่อมสายใยสองวัยต้วมเตี้ยมเลี้ยงเตาะแตะ 2)กลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตนเองและกลุ่มเพื่อนได้ เช่น โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน และ 3) กลุ่มที่ต้องการรับการช่วยเหลือจากสังคมเช่น โครงการ Home Health Care โครงการจัดตั้งศูนย์บริการทางสังคมเพื่อผู้สูงอายุ โครงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และ โครงการคลินิกผู้สูงอายุ เป็นต้น

Relate topics

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว