สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

นายกเล็งสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ “กิจการเพื่อสังคม”

by punyha @14 ม.ค. 53 19:55 ( IP : 222...123 ) | Tags : ข่าวสุขภาพประจำวัน

นายกเล็งสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ “กิจการเพื่อสังคม”

วันที่ 14 มกราคม 2553 13:42:13

เมื่อ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม และได้จัดให้มีการประชุมครั้งแรกขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การแต่งตั้งคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการน้อมนำเอา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยเฉพาะในขั้นที่ 2 และ 3 ที่เน้นการร่วมมือเอื้อเฝื้อต่อกันและกันไม่เบียดเบียนกันระหว่าง กิจการต่างๆ และการขยายผลอย่างกว้างขวางนั้นมาเป็นฐานในการสร้างระบบเศรษฐกิจ ใหม่อย่างเป็นรูปธรรมที่เรียกว่ากิจการเพื่อสังคม ซึ่งเป็นธุรกิจหรือวิสาหกิจลักษณะพิเศษที่ตั้งขึ้นเพื่อแก้ไข ปัญหาสังคม สุขภาวะ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกับการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนเพื่อความ ก้าวหน้าของประเทศชาติ อาจจะเรียกว่าเป็นระบบเศรษฐกิจพอเพียงขั้นก้าวหน้าอันจะนำไปสู่ การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และสังคมที่มีความเท่าเทียม ยุติธรรม และมีปัญญามากขึ้น

กิจการเพื่อสังคมนั้นมีอยู่ในหลากหลายด้าน เช่น กิจการด้านพลังงานทดแทนในระดับท้องถิ่น การท่องเที่ยวที่จัดการโดยชุมชน กิจการให้สินเชื่อขนาดเล็กสำหรับคนยากจน (micro-credit) การเกษตรยั่งยืน การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนยากจน การนำสินค้าทางวัฒนธรรมของชาวบ้านมาทำการตลาดการ เช่น โครงการดอยตุง การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ปัญหา สังคม การสร้างงานให้กับผู้พิการ สร้างสื่อสร้างสรรค์ ซึ่งลักษณะของกิจการเพื่อสังคมเหล่านี้กำลังเป็น กระแสไปทั่วโลก เห็นได้จากในยุโรปโดยเฉพาะรัฐบาลอังกฤษได้ให้ความสนใจในการเข้าไป พัฒนากิจการเพื่อสังคมของประเทศตนเองจนเกิดกิจการเพื่อสังคม กว่า 55,000 แห่ง จนปรากฎผลว่า กิจการเพื่อสังคมสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศถึง 8,000 ล้านปอนด์ต่อปีและยังสร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโดย British Council จะเชื่อมประสานกับทั้งรัฐและเอกชนอังกฤษในการสนับสนุนการ สร้างกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย โดยจะสนับสนุนทั้งในเชิงความ รู้ เครื่องมือ และความช่วยเหลืออื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ขณะที่ประเทศเกิดภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจโลก ทำให้หลายบริษัทต้องปิดตัวลง มีผลกำไรลดลง แต่กิจการเพื่อสังคมยังสามารถเจริญเติบโตและคง สถานภาพได้ดีกว่าเพราะการดำเนินการกิจการเพื่อสังคมไม่ได้คำนึง ถึงแต่หรือตามกระแสเศรษฐกิจแต่อย่างเดียวจึงทำให้กิจการเพื่อ สังคมมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจึงเร่งการทำแผนแม่บทสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพราะเชื่อว่า การเจริญเติบโตของภาคกิจการเพื่อสังคม จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยไม่ต้องประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต่อไป

สำหรับยุทธศาสตร์ในการดำเนินการ งานของคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมประกอบด้วย

3 ยุทธศาสตร์หลัก กล่าวคือ

  1. การสร้างการรับรู้และการเรียนรู้ในสังคมไทย โดยผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือ การพัฒนาเนื้อหาประกอบการเรียนเข้าไปในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันเฉพาะทางเพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง การลงทุนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับภูมิภาค (Social Enterprise ASIA)

  2. การพัฒนารูปแบบขีดความสามารถกิจการเพื่อสังคม ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนากฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ และการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเพื่อให้คำปรึกษาแก่บริษัทที่ต้อง การเปลี่ยนธุรกิจตนเองให้ เป็นธุรกิจเพื่อสังคมหรือพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจเพื่อสังคมให้เจริญ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ

  3. พัฒนาช่องทางเข้าถึงเงินทุนและทรัพยากรด้วยการจัดตัั้งกองทุน เพื่อระดมการสนับสนุนทรัพยากรอื่นๆ โดยสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งนี้จึงจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ด้านเพื่อขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวต่อไป

ที่มา นายกรัฐมนตรีไทย

Relate topics

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว