สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

ผลสำรวจชี้ แนวโน้มการบริโภคของคนไทย เปลี่ยนไป

ผลสำรวจชี้ แนวโน้มการบริโภคของคนไทย เปลี่ยนไป

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2550 13:20 น.

  บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ สศค.เผย แนวโน้มการบริโภคของคนไทยในอนาคต กำลังจะเปลี่ยนไป ผลสำรวจชี้ การบริโภคภาคเอกชนปีนี้ ชะลอตัวลงชัดเจน เน้นคุณภาพสินค้ามากขึ้น ระบุ 4 ตัวแปรสำคัญ กำหนดทิศทางสินค้าและบริการในอนาคต
      วันนี้(24 มิ.ย.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ประเมินสถานการณ์การบริโภคภาคเอกชนในปีนี้จะชะลอตัวลงชัดเจน โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.8-2.8 ต่อปี ชะลอจากร้อยละ 3.1 ในปีที่แล้ว และแนวโน้มการบริโภคของคนไทยจะเปลี่ยนแปลงไป โดยจะบริโภคสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งเน้นบริโภคด้านภาคบริการเพิ่มขึ้น
      ทั้งนี้ สศค.ได้จัดทำบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เรื่องสถานการณ์การบริโภคภาคเอกชนของไทยและแนวโน้มในอนาคต โดยระบุว่าเนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการตั้งแต่ปี 2549 มีส่วนผลักดันให้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมของไทยตกต่ำลงมาโดยตลอด โดยในปี 2550 สศค.ประมาณการการบริโภครวมภาคเอกชนว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 1.8-2.8 ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ 3.1 ต่อปี ในปี 2549 ซึ่งหากพิจารณาพฤติกรรมผู้บริโภคจะพบว่าในระยะต่อไปพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคเริ่มหันมาบริโภคที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการเพิ่มขึ้น ขณะที่จะบริโภคสินค้าจำเป็นน้อยลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่จะมีสัดส่วนภาคบริการเพิ่มขึ้น
      ทั้งนี้ จากการพิจารณาถึงโครงสร้างประชากรของไทยในอนาคต พบลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป 4 ประการ ประชากรไทยในอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นของเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น สัดส่วนผู้อาศัยในเขตเมืองทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น และจะพบว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรจะลดลง บ่งชี้ว่าในระยะยาวสังคมไทยอาจกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุได้
      แนวโน้มดังกล่าวมีนัยสำคัญคือ การที่ประเทศไทยมีจำนวนประชากรเพศหญิงมากขึ้น ย่อมทำให้ความต้องการในสินค้าสำหรับสตรีมีมากขึ้น การที่ประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จะมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อสุขภาพ รวมถึงมีการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวและพักผ่อนมากขึ้น และการที่สัดส่วนของผู้อาศัยในเขตเมืองมีแนวโน้มมากขึ้น จึงคาดการณ์ได้ว่าขนาดของครอบครัวในอนาคตจะเล็กลงและมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยขนาดเล็กที่เดินทางสะดวก เช่น คอนโดมิเนียมที่อยู่ริมทางรถไฟฟ้าจะมีมากขึ้นในอนาคต
      สำหรับการบริโภคในระยะสั้นปีนี้มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง ซึ่งปัจจัยสำคัญได้แก่ สถานการณ์การเมืองซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และจากการที่พฤติกรรมผู้บริโภคจะบริโภคสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งจะบริโภคสินค้าจำเป็นน้อยลง แต่จะหันมาบริโภคสินค้าที่เกี่ยวกับภาคบริการมากขึ้น เช่น ด้านการศึกษา ด้านสันทนาการ ด้านโรงแรมและภัตตาคาร รวมทั้งด้านสุขภาพ ซึ่งหากภาคธุรกิจนำแนวโน้มเหล่านี้ไปปรับใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ จะทำให้ธุรกิจมีความพร้อมต่อสภาพแวดล้อมด้านการตลาดที่เปลี่ยนไป และสามารถวางแผนการตลาดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำขึ้นในอนาคต

Relate topics

Comment #1
เด็กดี (Not Member)
Posted @25 ก.ค. 51 09:14 ip : 202...6

ดีเยี่มสุดๆๆๆๆเลย

ทำไห้ผมมีงานส่งอาจารย์

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว