สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

“หมอประเวศ” แนะคนไทยรวมตัวกันปลุกจิตสำนึก บ.ยาฝรั่ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 14:08 น.

"หมอประเวศ" แนะสังคมไทยควรสนับสนุน "หมอมงคล-หมอวิชัย" ทำซีแอล พร้อมยกตัวอย่างแฉบริษัทยาข้ามชาติค้ากำไรเกินควร เห็นแก่เงิน วอนประชาชนรวมตัวกันเพื่อสร้างความถูกต้องให้เกิดขึ้น
      วันนี้(30 พ.ค.) ที่องค์การเภสัชกรรมได้จัดการบรรยายพิเศษเรื่อง "ยากับความรับผิดชอบต่อสังคม ในมุมมองของหมอประเวศ" โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เนื่องในโอกาสที่องค์การเภสัชกรรมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเชิงสังคม เพื่อกำหนดกลยุทธ์กำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งนี้ ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า กรณีแอบบอตหรือบริษัทยาข้ามชาติรายอื่นๆ สามารถผลิตยาต่างๆ โดยมีผลกำไรอย่างมหาศาล แต่ความนับผิดชอบต่อสังคมมีน้อยมาก ซึ่งขัดแย้งกับผลกำไรที่ได้รับ อย่างไรก็ตามชีวิตและเลือดเนื้อของมนุษย์ไม่สามารถตีราคาเป็นเงินได้ และปัญหาคือคนจนเข้าไม่ถึงยาเพราะยามีราคาแพง
      บริษัทผลิตยาส่วนใหญ่ลงทุนกับการวิจัยยาให้กับโรคที่เกิดขึ้นกับคนรวย แต่โรคที่เกิดกับคนจนไม่ค่อยให้ความสำคัญ ดังนั้น จึงเป็นปัญหาที่ควรนำมาทบทวนกันให้มากว่าจะทำอย่างไรให้หันมาวิจัยยาที่เกี่ยวกับคนจนมากขึ้น อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นที่มาของปัญหานั่นคือ การค้าเสรีได้สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่สังคม เกิดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย นำมาซึ่งปัญหาโดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเมือง ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็เกิดปัญหานี้เช่นกัน ต่างกับประเทศนอเวย์ ที่ช่องว่างระหว่างคนรวย คนจนมีน้อยมาก คนที่มีรายได้ต่ำสุดกับคนรายได้สูงสุดต่างกันแค่ 4 เท่า ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ประเทศนี้พยายามรักษาระดับไว้ให้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่องว่างที่ห่างกันเกินไป
      ศ.นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรมในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีความเป็นธรรมเรื่องยา ควรจะตระหนักถึงกลไกที่ว่าต้องให้คนจนเข้าถึงยาได้มากขึ้น เพราะองค์กรนี้ไม่ใช่แอบบอตหรือบริษัทยาที่ค้ากำไรสูงสุด แต่จะทำอย่างไรให้เกิดระบบการจัดการทางภาครัฐที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำได้และที่สำคัญอย่านำองค์กรไปเข้าตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบต่างๆ รวมทั้งทำหน้าที่ในการกำกับศีลธรรมในสังคมก็คือประชาชน แต่ปัจจุบันนี้ประชาชนยังเข้าไม่ถึงข้อมูลและไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นหน้าที่ขององค์กรที่จะต้องคลี่คลายความซับซ้อนให้สังคมเข้าใจ
      "อย่างเช่นในหนังสือกระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ ที่หมอวิชัย โชควิวัฒน แปลให้สังคมได้รับรู้ ซึ่งขอยกตัวอย่างคือ บริษัทยามาบอกประชาชนว่าได้มีการลงทุนวิจัยยาเพื่อสังคม แต่ความจริงในหนังสือได้ตีแผ่ให้เห็นว่า 1.การลงทุนวิจัยยา ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยในมหาวิทยาลัยซึ่งมาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น 2.บริษัทยามีกำไรมากเกิน แต่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับเลือดเนื้อของมนุษย์ 3.ระดับ CEO มีรายได้สูงมาก 4.บริษัทยาเข้าไปล็อบบี้นักการเมืองให้ช่วยให้ได้จ่ายยาได้นานและแพง 5. บริษัทยาเข้าไปล็อบบี้เลขาธิการ อย. 6. ยาอะไรที่จะหมดอายุ จะนำไปดัดแปลงเล็กน้อยแล้วตั้งชื่อใหม่และขายให้แพงขึ้น แล้วถือเป็นยาใหม่ ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ ยาในอเมริกาก็มีราคาแพง ประชาชนไม่มีเงินซื้อก็ต้องไปซื้อยากับแคนาดา บริษัทยาก็ไปล็อบบี้นักการเมืองให้ออกกฎหมายห้ามซื้อยาในแคนาดาอีก นี่เป็นการทารุณกรรมเพื่อนมนุษย์"
      ศ.นพ.ประเวศ กล่าวอีกว่าแม้ฝรั่งจะเป็นประเทศที่รวยกว่า เก่งกว่า แต่ก็เป็นคนที่ใจร้ายที่สุด เห็นแก่เงิน ดังนั้น จึงอย่าหวังว่าเขาจะมาเห็นแก่คนไทย ฉะนั้นโลกจะไม่มีวันสงบสุขตราบใดที่ฝรั่งยังไม่สำนึกบาป และหากประชาชนรวมตัวกัน ความถูกต้องก็จะเกิดขึ้น เช่นในกรณีของนพ.มงคล ณ วงขลา และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นบุคคลที่มีหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์และตอนนี้กำลังต่อสู้เพื่อคนจน สังคมไทยควรสนับสนุนคนเช่นนี้

Relate topics

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว